The UP 2025:

Unlock Potential with Data -- Scaling up Business Program

"ปลดล็อกศักยภาพธุรกิจด้วยพลังของข้อมูล จัดโดย สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน)"

โครงการในปีที่ 2 เข้มข้นขึ้น และเปิดรับ SMEs มากขึ้น!
กับโครงการ "The UP 2025: Unlock Potential with Data -- Scaling up Business Program" จัดทำโดยสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) “หรือ BDI” มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อการเติบโต ค้นพบโอกาสใหม่ในตลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน พร้อมยกระดับศักยภาพของ SMEs ไทย ให้ก้าวสู่ยุคของธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

รับสมัครตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมถึง 14 พฤษภาคม 68 และเริ่มให้คำปรึกษาและพัฒนาแผนกลยุทธ์รายกิจการ

ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน 68

What we offer

ให้คำปรึกษาและเสริมศักยภาพด้านข้อมูลให้กับธุรกิจ ทำให้ธุรกิจที่ร่วมโครงการสามารถนำข้อมูลไปต่อยอดธุรกิจ ลดต้นทุน และบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการดำเนินงานครอบคลุมตั้งแต่การตรวจสอบ pain points ของกิจการ และพัฒนาแผนงานด้านข้อมูลเพื่อการนำข้อมูลไปใช้ในการแก้ปัญหาและสร้างการเติบโตอย่างเป็นระบบไปจนถึงการให้คำปรึกษาเชิงลึกในการแก้ปัญหาธุรกิจด้วยข้อมูลและบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทุกกิจการที่ร่วมโครงโครงการจะได้พัฒนา Data Blueprint ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ โดยเป็นการให้ปรึกษาแบบรายกิจการ แบบ hybrid ทั้ง onsite และ online เพื่อให้สามารถดำเนินการนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

What will you get

ที่ปรึกษาธุรกิจเฉพาะทาง วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
พร้อมให้คำแนะนำแบบ 1:1

Workshop เจาะลึก เทคนิคการใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายตลาด

เครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง พบปะผู้ประกอบการที่ใช้ข้อมูลสร้างโอกาสใหม่

แนวทางการปรับใช้ข้อมูลจริง เพื่อเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน และเติบโตอย่างยั่งยืน

ได้รับโอกาสในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจในวงกว้าง

Free ไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ

Who can participate

โครงการนี้เหมาะกับธุรกิจที่มีการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลในระบบการทำงาน และพร้อมที่จะนำข้อมูลมาใช้ในการแก้ปัญหา สร้างการเติบโตและตัดสินใจทางธุรกิจ เพื่อดึงศักยภาพของข้อมูลที่มีอยู่แล้ว มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

การใช้ประโยชน์จากข้อมูล สำหรับกลุ่มธุรกิจต่างๆ อาทิ

1.
กลุ่มธุรกิจเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตร
(Agriculture & AgriTech)
  • ข้อมูลสภาพอากาศและภูมิอากาศที่ช่วยในการวางแผนการเก็บเกี่ยวและการจัดการทรัพยากรทางการเกษตร
  • ข้อมูลการใช้น้ำและพลังงานที่ช่วยในการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มผลผลิตของธุรกิจ เกษตรวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและสุขภาพพืช เพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ

    ตัวอย่าง : การทำฟาร์มอัจฉริยะ ที่ใช้ระบบเซ็นเซอร์ IoT และ AI ช่วยตรวจสอบดินและสภาพอากาศได้แบบ เพื่อปรับปรุงการเพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


  • 2.
    กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ
    (Tourism & Hospitality)
  • ข้อมูลการจองห้องพัก ปริมาณผู้เข้าพัก มาวิเคราะห์แนวโน้มการท่องเที่ยวในแต่ละช่วง เพื่อรองรับลูกค้าได้อย่างราบรื่น
  • ข้อมูลการรีวิวของลูกค้า นำมาใช้ปรับปรุงบริการให้โดนใจลูกค้ามากขึ้น

    ตัวอย่าง : การนำข้อมูลมาใช้พัฒนา แพ็กเกจการท่องเที่ยวที่ตรงใจ และสามารถปรับแผนการตลาดได้ตามฤดูกาล





  • 3.
    กลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม
    (Healthcare & Wellness)
  • ข้อมูลผู้ป่วยและประวัติการรักษา เช่น ปริมาณผู้ป่วยในระยะเวลาที่แตกต่างกัน อาการโรคที่พบบ่อย ประวัติการรักษาที่มีผลต่อการวิเคราะห์และการวางแผนบริการสุขภาพ
  • ข้อมูลการรับบริการด้านส่งเสริมสุขภาพของลูกค้าหรือคนไข้
  • ข้อมูลการใช้บริการสุขภาพ เช่น
    การนัดหมายแพทย์ ความถี่ของการรับบริการสุขภาพ การใช้บริการที่มีอัตราการนำส่งสูง

    ตัวอย่าง : การนำข้อมูลที่มีไปวิเคราะห์เพื่อนำเสนอการบริการใหม่ๆให้กับลูกค้า
  • 4.
    กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
    (Food & Beverage Services)
  • ใช้ข้อมูลวิเคราะห์ยอดขายและการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ
  • สร้างกลยุทธ์รักษาลูกค้า (Customer Retention Strategies)
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า สร้างโปรโมชั่นและโปรแกรมสะสมแต้มที่ตรงใจ กระตุ้นการกลับมาซื้อซ้ำ

    ตัวอย่าง : การนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าและออกแบบเมนูใหม่เพื่อเพิ่มยอดขาย รวมถึงการบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด



  • 5.
    กลุ่มธุรกิจการค้า
    (E-Commerce & Retail)
  • ยอดขายที่ช่วยในการวิเคราะห์และปรับปรุงยอดขายสินค้า
  • ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้าที่ช่วยในการวางแผนสต็อกสินค้าและจัดการซัพพลายเชน เป็นต้น

    ตัวอย่าง : การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ เพื่อหาโอกาสในการเพิ่มยอดขายและจัดการระดับสต็อกสินค้า


  • 6.
    กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์
    (Technology & Software)
  • วิเคราะห์ข้อมูลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์
  • การนำข้อมูล Data Analytics วิเคราะห์การใช้งานซอฟต์แวร์และพัฒนา User Experience

    ตัวอย่าง : ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ต้องการระบบป้องกันการฉ้อโกง หรือ ธุรกิจพัฒนาเว็บไซต์ที่ต้องการสร้างระบบวิเคราะห์ประสิทธิภาพ

  • 7.
    กลุ่มธุรกิจภาคการผลิต/อุตสาหกรรม
    (ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์)
    (Manufacturing-Electronics &
    Automotive Parts)
  • ข้อมูลการผลิตที่ช่วยในการวางแผนการผลิตและบริหารจัดการคลังสินค้า
  • ข้อมูลการขายที่ช่วยในการวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด
  • ข้อมูลการใช้พลังงานที่ช่วยในการลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคงของการผลิต เป็นต้น

    ตัวอย่าง : ภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการนำข้อมูลไปพัฒนา ระบบบำรุงการรักษา หรือต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต


  • 8.
    กลุ่มธุรกิจการเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน
    (Financial Services& FinTech)


  • การใช้ระบบ AI ประเมินความสามารถในการกู้เงินของลูกค้าโดยใช้ข้อมูลพฤติกรรมและธุรกรรม เพื่อลดความเสี่ยงของสถาบันการเงิน
  • การประเมินความเสี่ยงทางธุรกิจแบบอัตโนมัติ (Automated Risk Assessment) ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและตลาด เพื่อช่วยนักลงทุนและธุรกิจตัดสินใจอย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงในการลงทุน

    ตัวอย่าง : ธุรกิจให้คำปรึกษาทางการเงินที่ต้องการระบบเข้ามาวิเคราะห์พฤติกรรมหรือวิเคราะห์ตรวจสอบข้อมูลเครดิตของลูกค้าด้วย AI

  • 9.
    กลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
    (Logistics & Supply Chain)
  • ข้อมูลการขนส่งสินค้า เช่น การจราจรในพื้นที่ต่างๆ การจัดส่งสินค้าตามเวลา และการบรรทุกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ
  • ข้อมูลการจัดการคลังสินค้า เช่น ความจุคลังสินค้า ความเคลื่อนไหวของสินค้าในคลัง และการจัดการสต็อกที่มีความเป็นไปได้สูง
  • ข้อมูลการใช้พื้นที่และการจัดส่ง เช่น การวางแผนเส้นทางการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ การลดต้นทุนในการขนส่ง และการพัฒนาบริการลูกค้าที่มีความพึงพอใจ

    ตัวอย่าง : บริการจัดส่งในพื้นที่ที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางการจัดส่งและปรับปรุงความน่าเชื่อถือของบริการ
  • 10.
    กลุ่มธุรกิจอื่นๆ

  • ข้อมูลลูกค้าและพฤติกรรมการใช้บริการ เช่น แนวโน้มในการใช้บริการต่างๆ ความถี่ในการใช้บริการ และความพึงพอใจของลูกค้า
  • ข้อมูลการซื้อและการบริการเสริม เช่น ลูกค้าที่มีภาพลักษณ์ที่สร้างความนิยม โปรโมชั่นและการขายพิเศษ และการวิเคราะห์ผลของโปรโมชั่นต่างๆ
  • ข้อมูลการดำเนินงานภายในและบริหารจัดการ เช่น การจัดการทรัพยากรบุคคล การวางแผนกิจกรรมทางธุรกิจ และการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ



  • คุณสมบัติผู้สมัคร

    1. เป็นนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งมีหุ้นอันเป็นทุนตั้งแต่ร้อยละ 51 ของนิติบุคคลนั้นถือโดยบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย
    2. ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภาคการผลิต ภาคการค้า และการบริการ ที่มีธุรกิจขนาด S และ M (อ้างอิง: สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) *

    3. ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ต้องมีการเก็บข้อมูลในรูปแบบที่มีโครงสร้าง (Structured data) เช่น .csv, xml, sql และ xls เป็นต้น
    4. เป็นเจ้าของกิจการ หรือ ผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ

    หมายเหตุ *

    วิสาหกิจขนาดย่อม (Small Enterprise)

    • ภาคการผลิต: มีรายได้ต่อปีเกิน 1.8 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท หรือมีการจ้างงานเกิน 5 คน แต่ไม่เกิน 50 คน
    • ภาคบริการ/ค้าส่ง/ค้าปลีก: มีรายได้ต่อปีเกิน 1.8 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 50 ล้านบาท หรือมีการจ้างงานเกิน 5 คน แต่ไม่เกิน 30 คน

    วิสาหกิจขนาดกลาง (Medium Enterprise)

    • ภาคการผลิต: มีรายได้ต่อปีเกิน 100 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 500 ล้านบาท หรือมีการจ้างงานเกิน 50 คน แต่ไม่เกิน 200 คน
    • ภาคบริการ/ค้าส่ง/ค้าปลีก: มีรายได้ต่อปีเกิน 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 300 ล้านบาท หรือมีการจ้างงานเกิน30 คน แต่ไม่เกิน 100 คน

    เกณฑ์การคัดเลือก

    1. คุณภาพและความพร้อมของข้อมูล
    2. ความมุ่งมั่นและความพร้อมของบริษัท
    3. ความสามารถพื้นฐานทางเทคโนโลยีและการใช้ข้อมูล
    4. ศักยภาพการเติบโตและขยายตัวของบริษัท
    5. ศักยภาพทางธุรกิจและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ

    หมายเหตุ

    ขั้นตอนการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ

    1. ผู้สมัครแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการ
    2. เจ้าหน้าที่โครงการ จะติดต่อเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา
    3. ประกาศผลผู้ผ่านเข้าร่วมโครงการ ผ่านทางเว็บไซต์ และ เฟซบุ๊ก ของสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน)
    4. สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ ขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ โดยผลการคัดเลือกถือเป็นที่สิ้นสุด

    Program Activities

    1. Knowledge
    Building Workshop
    (2 Day)

    Workshop นี้ครอบคลุมการทำแผนงานเบื้องต้นเพื่อบริหารจัดการด้านข้อมูลและการนำข้อมูลไปให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางธุรกิจ เช่น การสร้างรายได้จากข้อมูล (Data Monetizing) กรณีศึกษาของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ข้อมูล การแนะนำและสาธิตการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล การประเมินคุณภาพข้อมูล และความสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลในการดำเนินธุรกิจแบบรายกิจการ

    2. Mentoring

    กิจกรรมหลักในโครงการประกอบด้วยการให้คำปรึกษารายกิจการจากผู้เชี่ยวชาญประกอบด้วย

    • การบริหารจัดการข้อมูล และการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการจัดการธุรกิจ
    • การจัดเก็บและการ วิเคราะห์ข้อมูล
    • ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางโครงสร้างการบริหารจัดการข้อมูล และการดำเนินการด้านข้อมูล

    โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทีมผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการแบบเจาะลึก และร่วมวางแผนกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจและจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    Project Timeline

    *กำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม (คุณบุษรินทร์ ตานะ)

    0 2480 8833 ต่อ 9573 หรือ โทร 0626385542

    คุณสุดารัตน์ สงค์ประดิษฐ์ 0614169691

    คุณอัญเนศร์ ณัชภัคสิรินันท์ 0896192469